สีย้อมและเม็ดสี (DYES AND PIGMENT)

สีย้อมและเม็ดสีเป็นสารที่ให้สีแก่วัสดุ ความแตกต่างที่สำคัญของทั้งสองอย่างนี้คือความสามารถของการละลายในของเหลว สีย้อม (Dyes) กละลายได้ หรือสามารถทำให้ละลายได้ในน้ำ จึงมักใช้ในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น เจลหรือครีมทำสี ส่วน เม็ดสี (Pigments) โดยทั่วไปไม่ละลายในน้ำ น้ำมัน หรือตัวทำละลายทั่วๆ ไป ก่อนที่จะนำเม็ดสีไปใช้จึงต้องบดให้ละเอียดเป็นผงและผสมกับของเหลวที่เรียกว่า สารช่วยกระจายตัว (Dispersing agent) หรือ ตัวนำส่ง (Vehicle) 

สีย้อม ใช้สำหรับย้อมสีสิ่งทอ เส้นผม กระดาษ และสารอื่นๆ ในขณะที่ เม็ดสี ใช้ในสีทา (Paints), น้ำหมึก, เครื่องสำอาง และพลาสติก

ในปัจจุบันมีสีย้อมสองประเภทที่ใช้ในเทคโนโลยีทำสีผม: 

สีย้อมโดยตรง (Direct Dyes) 

สีย้อมแบบออกซิเดชัน (Oxidative Dyes) 

สีย้อมโดยตรง เป็นโมเลกุลที่มีสีอยู่แล้ว มักถูกดูดซึมที่พื้นผิวหรือใกล้กับพื้นผิวเส้นผม ส่วน สีย้อมแบบออกซิเดชัน เป็นโมเลกุลที่ไม่มีสี เรียกว่า ตัวช่วยจับคู่ หรือ คัปเปลอร์ส  (Couplers) และ สารตั้งต้น หรือ พรีเคอร์เซอร์ส (Precursors) ซึ่งต้องใช้ตัวออกซิไดส์ช่วยให้เกิดปฏิกิริยาเพื่อสร้างโมเลกุลสี สีย้อมแบบออกซิเดชันสามารถซึมลึกเข้าไปในเส้นผมได้

เกร็ดน่ารู้ (BY THE WAY) 

ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมจำนวนมากประกอบด้วยส่วนผสมของทั้งสีย้อมแบบออกซิเดชันและสีย้อมโดยตรง 

สีย้อมแบบออกซิเดชัน (Oxidative Dyes) 

สำหรับการทำสีผมแบบออกซิเดชัน จำเป็นต้องมีตัวช่วยจับคู่ (Couplers), สารตั้งต้น (Precursors) และน้ำยาเปอร์ออกไซด์ (Peroxide Lotion)

กระบวนการทางเคมีของการจับคู่แบบออกซิเดชันมีความซับซ้อนพอสมควร แต่โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้ 

1
การออกซิไดส์ของสารตั้งต้น  

2

การจับคู่ระหว่างสารตั้งต้นที่ผ่านการออกซิเดชันกับตัวช่วยจับคู่  

3

การออกซิเดชันของผลิตภัณฑ์ที่จับคู่กันแล้ว เพื่อสร้างสีย้อมสีสุดท้าย  


อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสีย้อมแบบออกซิเดชันได้ที่น


เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทฤษฎีสได้ที่น

Page Top